ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
(Disclosure 403-1, 403-2, 403-7, 403-8, 403-9, 403-10:2018)
กลุ่มบริษัทจัดทำและประกาศใช้ระเบียบปฏิบัติ และคู่มือการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่งเสริมให้การดำเนินงานเป็นไปตามระบบมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001 : 2018) พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมาย “อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์” เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เสริมสร้างคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีแก่พนักงาน คู่ค้า และผู้รับเหมา สอดคล้องตามกฎหมาย และมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ปี 2567 กลุ่มบริษัทมีการทบทวนเอกสารวิธีปฏิบัติงาน (Work Instruction) เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน รวมทั้งได้ปรับปรุงเอกสารบันทึกผลการปฏิบัติงาน (Record) ให้มีความสอดคล้องกับลักษณะการปฏิบัติงานจริงและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
จากการดำเนินงานในปี 2567 ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุกับพนักงาน ผู้รับเหมา และOutsource ของกลุ่มบริษัท
สรุปสถิติความปลอดภัยในการทำงานของบริษัท (พนักงาน ผู้รับเหมาและOutsource) ประจำปี 2567


ปี 2567 กลุ่มบริษัทมีคณะทำงาน (คณะกรรมการ) ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน จำนวน 3 คณะ ได้แก่ คณะทำงานฯ พื้นที่สำนักงานใหญ่ คณะทำงานฯ พื้นที่ปฏิบัติการ และคณะทำงานฯ บมจ.ยูยู เพื่อให้สามารถดูแลรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง โดยมีการจัดประชุมเป็นประจำทุกเดือน ประกอบด้วยสมาชิก ดังนี้ (Disclosure 403-4 : 2018)

ทบาทหน้าที่ และขอบเขตความรับผิดชอบของคณะทำงานฯ ทั้ง 3 คณะ













กิจกรรมด้านความปลอดภัย
(Disclosure 403-3, 403-6, 403-7, 403-10:2018)
อีสท์ วอเตอร์ มีการจัดกิจกรรมด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
จากการประเมินเพื่อบ่งชี้สิ่งคุกคามต่อสุขภาพ และประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงาน ผู้รับเหมา และOutsource ของบริษัท สรุปได้ดังนี้
1.1 พนักงาน : พบว่ามีสิ่งคุกคามต่อสุขภาพ เช่น แสงสว่าง เสียง รังสียูวี แสงสีน้ำเงิน สารเคมี ท่าทางการทำงานกับคอมพิวเตอร์ จิตสังคม ชีวภาพ(โรคติดต่อ) ความร้อน ฝุ่นละออง และสิ่งคุกคามด้านความปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทได้จัดโปรแกรมการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมตามปัจจัยเสี่ยง เช่น ตรวจสมรรถภาพการได้ยิน ตรวจสมรรถภาพการมองเห็น เป็นต้น โดยในปี 2567 พนักงานของบริษัทไม่พบอัตราการเกิดโรคจากการทำงาน
1.2 ผู้รับเหมา และOutsource : บริษัทกำหนดให้ผู้รับเหมา และOutsourceของบริษัท มีการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ที่อาจส่งผลต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือด พร้อมทั้งเฝ้าระวังความผิดปกติจากการทำงาน เช่น การมองเห็น ประสาทหูเสื่อมจากเสียงดัง เป็นต้น โดยเฉพาะการทำงานในพื้นที่อันตราย ผู้รับเหมา และOutsource ที่เข้าพื้นที่จะต้องมีผลตรวจสุขภาพเป็นไปตามกฎหมายกำหนด และปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยในปี 2567 ผู้รับเหมา และOutsource ของบริษัทไม่พบอัตราการเกิดโรคจากการทำงาน
อีสท์ วอเตอร์ มีการจัดทำวารสารด้านความปลอดภัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม (SHE NEWS) เป็นประจำทุกเดือนอย่างต่อเนื่องเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร และสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัย การมีสุขภาพที่ดี การใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงาน
กลุ่มบริษัทได้จัดทำแผนฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานแก่พนักงานแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในปีที่ผ่านมาประกอบด้วย 21 หลักสูตร (Disclosure 403-5: 2018) ดังนี้

กลุ่มบริษัทได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคจากการทำงาน (ออฟฟิศซินโดรม) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน เพื่อมุ่งหวังที่จะป้องกันโรคจากการทำงานที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนทำงาน เช่น การปวดหลัง ปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ และปวดศีรษะ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเกิดจากท่าทางการทำงานไม่ถูกต้อง การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ผ่านกิจกรรม ดังนี้
4.1 กิจกรรมการนวดกายภาพเพื่อบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม
4.2 กิจกรรมฝึกสอนให้ความรู้พนักงานในหัวข้อ "บอกลาอาการปวด คอ บ่า ไหล่ จากออฟฟิศซินโดรม ด้วยทริคนวดง่าย ๆ สำหรับคนทำงาน"
กลุ่มบริษัทได้กำหนดให้มีกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน (EWG Safety Month) ผ่านระบบออนไลน์ ณ อาคารอีสท์วอเตอร์ โดยมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน พนักงานทราบถึงวิธีการทำงานที่ปลอดภัย สามารถป้องกันอันตราย และอุบัติเหตุได้อย่างถูกต้อง สร้างความสามัคคีภายในองค์กร และเพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศการทำงานที่สร้างสุข Happy Work Place พนักงานใส่ใจความปลอดภัยมีสุขภาพดี ลดความเครียดจากการทำงาน รวมทั้งเป็นการถ่ายทอดความตั้งใจของผู้บริหารที่ให้ความสำคัญของความปลอดภัยในการทำงานแก่พนักงาน โดยแบ่งออกเป็น 4 กิจกรรม ได้แก่
5.1 จัดนิทรรศการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ด้านความปลอดภัย และกิจกรรมตอบคำถามให้ ความรู้ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ผ่านช่องทาง Yammer, Line, E-mail และ Poster
5.2 กิจกรรม Safety Talk ในหัวข้อ " การป้องกันภัยไซเบอร์ อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ”
5.3 กิจกรรมเกมส์ให้ความรู้ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและมุ่งเน้นการลดอุบัติเหตุในที่ทำงาน
5.4 กิจกรรม “Chill ยามบ่ายกับ Safety” ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับ จป.วิชาชีพ โดยวิทยากร เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพของกลุ่มบริษัท
จากการจัดกิจกรรมข้างต้น พนักงานมีการทบทวนความรู้ความเข้าใจในเรื่องของความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และมุ่งเน้นการลดอุบัติเหตุในที่ทำงาน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น พนักงานทำงานด้วยความสุข และลดความเครียดจากการปฏิบัติงาน
มุ่งเน้นสร้างพฤติกรรมความปลอดภัยให้แก่พนักงาน นำไปสู่การสร้าง และปรับปรุงวัฒนธรรมความปลอดภัยขององค์กร ซึ่งได้จัดกิจกรรมกับพนักงานในพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัท นอกจากนี้ยังได้นำ APT’s ของพนักงานทุกท่านต่อยอดเป็นโครงการ APT’s คุณภาพประจำแต่ละไตรมาส เพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดี และทำให้พนักงานตระหนักถึงประโยชน์ของกิจกรรมค้นหาอันตรายมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน โดยในการทำงานแต่ละวันมีการวางแผนการตรวจสอบเป็นประจำสม่ำเสมอ ตั้งแต่วิธีการปฏิบัติงาน สภาพเครื่องจักร สารเคมี และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องในการทำงาน ตลอดจนผู้ปฏิบัติงาน พร้อมกับมีระบบการติดตามแก้ไขให้แล้วเสร็จในเวลาที่เหมาะสม ทำให้พนักงานมีความตระหนักเกี่ยวกับความปลอดภัย รวมถึงบ่งชี้พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยเพื่อนำไปสู่ การแก้ไข ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
ในปี 2567 ได้กำหนดเป้าหมายรวมถึงตัวชี้วัด โดยผู้บริหารและพนักงานทุกคนภายในสายปฏิบัติการ ต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จากการประเมินพบว่าร้อยละ 98.82 ของพนักงานภายในสายปฏิบัติการมีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีร้อยละ 1.18 ของพนักงานภายในสายปฏิบัติการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนด

อีสท์ วอเตอร์ ให้ความสำคัญ และส่งเสริมให้องค์กรมีวัฒนธรรมความปลอดภัย จึงจัดให้มีโครงการการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย (Behavior-Based Safety : BBS) และการสร้างแนวความคิดความปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (Building SHE Mindset) เพื่อเป็นการสร้างกรอบความคิดหรือทัศนคติทางจิตใจ ที่ส่งผลต่อความรู้สึก การกระทำ และพฤติกรรมที่มีอิทธิพลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ให้สามารถขับเคลื่อนพฤติกรรม และนำไปสู่ความสำเร็จได้ โดยมุ่งหวังให้พนักงานเกิดความคิดหรือทัศนคติทางจิตใจที่ดีในเรื่องของความปลอดภัย (S = Safety) อาชีวอนามัยหรือสุขภาพ (H = Health) และสิ่งแวดล้อม (E = Environmental) ทั้งนี้ ผู้บริหารมุ่งเน้นให้องค์กรมีวัฒนธรรมความปลอดภัยที่เกิดจากทัศนคติด้านความปลอดภัย และจิตสำนึกที่ดีของพนักงานในบริษัท ซึ่งเป็นหลักการของพฤติกรรมที่ปลอดภัยที่ดี โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่่
7.1 อบรมให้ความรู้หลักสูตร “การสร้าง SHE ในองค์กร” ให้พนักงานทุกระดับเกิดความรู้ความเข้าใจ และเกิดการสร้าง SHE mindset ในองค์กร
7.2 แต่งตั้งคณะกรรมการกิจกรรมการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย (Behavior-Based Safety: BBS) ประจำสำนักงานใหญ่
7.3 การสำรวจ SHE mindset ในองค์กร
7.4 อบรมหลักสูตร “อาสาสมัครการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย” ให้กับตัวแทนพนักงานในแต่ละหน่วยงาน
อีสท์ วอเตอร์ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพใจ (Mental Health) เป็นปีที่ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต หรือ Mental Health ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถประเมินความสุขในการทำงานของพนักงาน เมื่อต้องทำงานภายใต้องค์กรเดียวกัน พร้อมทั้ง สร้างบรรยากาศการทำงานที่สร้างสุข Happy Work Place ส่งเสริมพนักงานใส่ใจสุขภาพมี สุขภาพกาย และภาวะจิตใจที่เป็นสุข สามารถปรับตัวแก้ปัญหา สร้างสรรค์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่น มีความมั่นคงทางจิตใจ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สามารถอยู่ในสังคม และสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจัดให้มีกิจกรรมการให้บริการปรึกษาจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา
9.1 การตรวจวัดแสงสว่าง บริษัทได้ทำการตรวจสอบแสงสว่างในสถานที่ประกอบกิจการ 1 ครั้ง ดังนี้

จากการตรวจสอบแสงสว่างในสถานที่ประกอบกิจการ บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโดยการติดตั้งระบบไฟ ส่องสว่างเป็นแบบ LED High bay ให้ครอบคลุมพื้นที่ทำงาน และหลังจากดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้วเสร็จ มีการตรวจวัดค่าแสงสว่าง พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกจุด
9.2 อุปกรณ์ทำงาน บริษัทมีการตรวจเช็คอุปกรณ์ทำงานทุก ๆ วัน โดยตรวจเช็คมอเตอร์, ปั๊ม Accessory Pump, Valve system, Electrical system, Fire Alarm system, Control Scada/Instrument, flowmeter, เครื่องวัดคุณภาพน้ำ online เป็นต้น พบว่ามีสภาพปกติพร้อมใช้งาน
9.3 อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย บริษัทได้จัดให้มีการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย โดยจัดหาเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ ได้ทำการติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ การจัดทำทางหนีไฟ เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ พร้อมทั้งมีการตรวจสอบอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยฯ ทุกชนิดอย่างสม่ำเสมอ แยกตามรายการ ดังนี้
- FM_ป_400-017 RV.00 แบบตรวจสอบเครื่องดับเพลิงชนิดมือ
- FM_ป_400-018 RV.00 แบบตรวจสอบเครื่องตรวจวัดก๊าซแบบพกพา
- FM_ป_400-020 RV.00 แบบตรวจสอบไฟฉุกเฉิน และป้ายทางหนีไฟ
- FM_ป_400-031 RV.00 แบบตรวจสอบอุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือ
- FM_ป_400-032 RV.00 แบบตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ
9.4 อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล บริษัทได้จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่ผ่านตามมาตรฐานให้แก่พนักงาน โดยก่อนรับอุปกรณ์ บริษัทให้พนักงานได้ศึกษารายละเอียดการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล และวิธีการดูแลรักษา เช่น รองเท้าเซฟตี้ หมวกเซฟตี้ อุปกรณ์ป้องกันเสียง แว่นเซฟตี้ และถุงมือหนัง
9.5 การรั่วไหลของสารอันตราย บริษัทมีการใช้สารเคมีประเภท โซเดียมไฮโปคลอไรต์ (sodium hypochlorite) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น พร้อมทั้งได้จัดทำพื้นที่จัดเก็บสารเคมีให้เป็นไปตาม กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน เกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2556 โดยบริษัทได้มีการเข้าตรวจพื้นที่จัดเก็บสารเคมีรั่วไหลเป็นประจำทุกเดือน มีการรายงานผลแบบบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายพร้อมรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย (สอ.1) รายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทำงานและสถานที่จัดเก็บรักษาสารเคมีอันตราย (สอ.3) และ ใบแจ้งข้อเท็จจริงของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออกหรือผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายใน ความรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม(วอ.อก7) ตามกำหนดของกฎหมาย (Disclosure 305-6)
ทั้งนี้ ในปี 2567 ไม่พบการหกรั่วไหลของสารเคมีและได้มีการจ้างผู้รับจ้างเข้ามาตรวจการฟุ้งกระจายในอากาศเพื่อยืนยันว่านอกจากการตรวจสอบทางกายภาพแล้วไม่มีการหกรั่วไหล (ฟุ้งกระจายในอากาศ) ที่ไม่สามารถตรวจทางกายภาพได้ พร้อมทั้งมีการซ้อมแผนสารเคมีหกรั่วไหลประจำปีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง (Disclosure 306-3)
การจัดการเหตุฉุกเฉิน

บริษัทให้ความสำคัญเรื่องการจัดการเหตุฉุกเฉินเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานรวมถึงทรัพย์สินของบริษัท ในปี 2567 มีการดำเนินการดังนี้
1. ปรับปรุงคู่มือการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) และ ปรับปรุงแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Planning : BCP) รวมทั้งฝึกซ้อมแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ ณ สำนักงานใหญ่ อาคารอีสท์วอเตอร์ โดยจำลองสถานการณ์เกิดเหตุเพลิงไหม้ ในส่วนพื้นที่ปฏิบัติการ ได้จำลองสถานการณ์สระเก็บ น้ำดิบแตกรั่วไหล และท่วมถนน พื้นที่การเกษตรและพื้นที่ชุมชน
บริษัทได้ทดสอบความครบถ้วนของแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ รวมทั้งทดสอบความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ จัดเตรียมความพร้อมของระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบัติการ สถานที่ปฏิบัติงานสำรอง และการติดต่อสื่อสารงานระหว่าง พนักงานที่ปฏิบัติงานที่บ้าน หน่วยงานภายใน และหน่วยงานภายนอก
นอกจากนี้ยังได้จัดทำคู่มือแผนการบริหารภาวะวิกฤต (Crisis Management Plan : CMP) เพื่อให้เกิดการเตรียมการ การจัดการต่อสภาวการณ์หรือสถานการณ์ชั่วคราวที่ไม่ได้คาดคิด สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อันเป็นการลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการจัดทำแผนการสื่อสารในภาวะวิกฤต (Crisis Communication Plan) เพื่อให้เกิดเกิดการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
2. ฝึกซ้อมดับเพลิง และอพยพหนีไฟประจำปีของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่ ดังนี้
- พื้นที่สำนักงานใหญ่ อาคารอีสท์วอเตอร์ แบ่งออกเป็น 2 ครั้ง คือ การฝึกซ้อมดับเพลิง และอพยพหนีไฟในยามวิกาล และในเวลาทำการ
- พื้นที่ปฏิบัติการ ฝึกซ้อมในพื้นที่ในสถานี และสำนักงานครอบคลุม จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดฉะเชิงเทรา
เพื่อเตรียมความพร้อมการฝึกปฏิบัติการอพยพ การทดสอบระบบป้องกันอัคคีภัยกรณีเกิดเหตุ โดยมีหน่วยงานราชการสถานีดับเพลิง สถานีตำรวจ โรงพยาบาล หน่วยงานฝึกอบรม และอาคารบ้านเรือนข้างเคียง ให้ความร่วมมือสนับสนุนการฝึกซ้อมซึ่งผลการฝึกซ้อมสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์
3. ฝึกซ้อมระงับเหตุฉุกเฉินกรณีสารเคมีหกรั่วไหล ประจำปีของบริษัท เพื่อเตรียมความพร้อมการฝึกปฏิบัติการจัดการกับสารเคมีอันตราย หรือน้ำมันเชื้อเพลิงหกรั่วไหล รวมทั้งการจัดการของเสียที่เกิดขึ้น ตามที่กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐาน