ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

(Disclosure 403-1, 403-2, 403-7, 403-8, 403-9, 403-10:2018)

กลุ่มบริษัทจัดทำและประกาศใช้ระเบียบปฏิบัติ และคู่มือการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ส่งเสริมให้การดำเนินงานเป็นไปตามระบบมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001 : 2018) พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมาย “อุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์” เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เสริมสร้างคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดีแก่พนักงาน คู่ค้า และผู้รับเหมา สอดคล้องตามกฎหมาย และมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ปี 2567 กลุ่มบริษัทมีการทบทวนเอกสารวิธีปฏิบัติงาน (Work Instruction) เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน รวมทั้งได้ปรับปรุงเอกสารบันทึกผลการปฏิบัติงาน (Record) ให้มีความสอดคล้องกับลักษณะการปฏิบัติงานจริงและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

จากการดำเนินงานในปี 2567 ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุกับพนักงาน ผู้รับเหมา และOutsource ของกลุ่มบริษัท

สรุปสถิติความปลอดภัยในการทำงานของบริษัท (พนักงาน ผู้รับเหมาและOutsource) ประจำปี 2567

ปี 2567 กลุ่มบริษัทมีคณะทำงาน (คณะกรรมการ) ความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน จำนวน 3 คณะ ได้แก่ คณะทำงานฯ พื้นที่สำนักงานใหญ่ คณะทำงานฯ พื้นที่ปฏิบัติการ และคณะทำงานฯ บมจ.ยูยู เพื่อให้สามารถดูแลรับผิดชอบแต่ละพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง โดยมีการจัดประชุมเป็นประจำทุกเดือน ประกอบด้วยสมาชิก ดังนี้ (Disclosure 403-4 : 2018)

ทบาทหน้าที่ และขอบเขตความรับผิดชอบของคณะทำงานฯ ทั้ง 3 คณะ

1. การบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัย
2. สภาพแวดล้อมในการทำงาน
3. การป้องกัน และระงับอัคคีภัย
4. ปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
5. การอับอากาศ
6. ความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า
7. การตรวจสุขภาพลูกจ้าง
8. สวัสดิการในสถานประกอบการ
9. อัตราน้ำหนักที่ให้ลูกจ้างทำงาน
10. เจ็บป่วยจากการทำงาน
11. เขตปลอดบุหรี่
12. การควบคุมอาคาร
13. ความปลอดภัยในเขตก่อสร้าง

กิจกรรมด้านความปลอดภัย

(Disclosure 403-3, 403-6, 403-7, 403-10:2018)

อีสท์ วอเตอร์ มีการจัดกิจกรรมด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

จากการประเมินเพื่อบ่งชี้สิ่งคุกคามต่อสุขภาพ และประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงาน ผู้รับเหมา และOutsource ของบริษัท สรุปได้ดังนี้
1.1 พนักงาน : พบว่ามีสิ่งคุกคามต่อสุขภาพ เช่น แสงสว่าง เสียง รังสียูวี แสงสีน้ำเงิน สารเคมี ท่าทางการทำงานกับคอมพิวเตอร์ จิตสังคม ชีวภาพ(โรคติดต่อ) ความร้อน ฝุ่นละออง และสิ่งคุกคามด้านความปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทได้จัดโปรแกรมการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมตามปัจจัยเสี่ยง เช่น ตรวจสมรรถภาพการได้ยิน ตรวจสมรรถภาพการมองเห็น เป็นต้น โดยในปี 2567 พนักงานของบริษัทไม่พบอัตราการเกิดโรคจากการทำงาน
1.2 ผู้รับเหมา และOutsource : บริษัทกำหนดให้ผู้รับเหมา และOutsourceของบริษัท มีการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ที่อาจส่งผลต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือด พร้อมทั้งเฝ้าระวังความผิดปกติจากการทำงาน เช่น การมองเห็น ประสาทหูเสื่อมจากเสียงดัง เป็นต้น โดยเฉพาะการทำงานในพื้นที่อันตราย ผู้รับเหมา และOutsource ที่เข้าพื้นที่จะต้องมีผลตรวจสุขภาพเป็นไปตามกฎหมายกำหนด และปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยในปี 2567 ผู้รับเหมา และOutsource ของบริษัทไม่พบอัตราการเกิดโรคจากการทำงาน

อีสท์ วอเตอร์ มีการจัดทำวารสารด้านความปลอดภัย สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม (SHE NEWS) เป็นประจำทุกเดือนอย่างต่อเนื่องเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร และสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัย การมีสุขภาพที่ดี การใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงาน

กลุ่มบริษัทได้จัดทำแผนฝึกอบรมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานแก่พนักงานแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในปีที่ผ่านมาประกอบด้วย 21 หลักสูตร (Disclosure 403-5: 2018) ดังนี้

กลุ่มบริษัทได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคจากการทำงาน (ออฟฟิศซินโดรม) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน เพื่อมุ่งหวังที่จะป้องกันโรคจากการทำงานที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนทำงาน เช่น การปวดหลัง ปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ และปวดศีรษะ เป็นต้น ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเกิดจากท่าทางการทำงานไม่ถูกต้อง การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ผ่านกิจกรรม ดังนี้

4.1 กิจกรรมการนวดกายภาพเพื่อบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม

4.2 กิจกรรมฝึกสอนให้ความรู้พนักงานในหัวข้อ "บอกลาอาการปวด คอ บ่า ไหล่ จากออฟฟิศซินโดรม ด้วยทริคนวดง่าย ๆ สำหรับคนทำงาน"

กลุ่มบริษัทได้กำหนดให้มีกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงาน (EWG Safety Month) ผ่านระบบออนไลน์ ณ อาคารอีสท์วอเตอร์ โดยมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน พนักงานทราบถึงวิธีการทำงานที่ปลอดภัย สามารถป้องกันอันตราย และอุบัติเหตุได้อย่างถูกต้อง สร้างความสามัคคีภายในองค์กร และเพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศการทำงานที่สร้างสุข Happy Work Place พนักงานใส่ใจความปลอดภัยมีสุขภาพดี ลดความเครียดจากการทำงาน รวมทั้งเป็นการถ่ายทอดความตั้งใจของผู้บริหารที่ให้ความสำคัญของความปลอดภัยในการทำงานแก่พนักงาน โดยแบ่งออกเป็น 4 กิจกรรม ได้แก่

5.1 จัดนิทรรศการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ด้านความปลอดภัย และกิจกรรมตอบคำถามให้ ความรู้ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ผ่านช่องทาง Yammer, Line, E-mail และ Poster

5.2 กิจกรรม Safety Talk ในหัวข้อ " การป้องกันภัยไซเบอร์ อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ”

5.3 กิจกรรมเกมส์ให้ความรู้ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและมุ่งเน้นการลดอุบัติเหตุในที่ทำงาน

5.4 กิจกรรม “Chill ยามบ่ายกับ Safety” ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับ จป.วิชาชีพ โดยวิทยากร เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพของกลุ่มบริษัท

จากการจัดกิจกรรมข้างต้น พนักงานมีการทบทวนความรู้ความเข้าใจในเรื่องของความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ ตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และมุ่งเน้นการลดอุบัติเหตุในที่ทำงาน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น พนักงานทำงานด้วยความสุข และลดความเครียดจากการปฏิบัติงาน

มุ่งเน้นสร้างพฤติกรรมความปลอดภัยให้แก่พนักงาน นำไปสู่การสร้าง และปรับปรุงวัฒนธรรมความปลอดภัยขององค์กร ซึ่งได้จัดกิจกรรมกับพนักงานในพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัท นอกจากนี้ยังได้นำ APT’s ของพนักงานทุกท่านต่อยอดเป็นโครงการ APT’s คุณภาพประจำแต่ละไตรมาส เพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดี และทำให้พนักงานตระหนักถึงประโยชน์ของกิจกรรมค้นหาอันตรายมากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน โดยในการทำงานแต่ละวันมีการวางแผนการตรวจสอบเป็นประจำสม่ำเสมอ ตั้งแต่วิธีการปฏิบัติงาน สภาพเครื่องจักร สารเคมี และสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องในการทำงาน ตลอดจนผู้ปฏิบัติงาน พร้อมกับมีระบบการติดตามแก้ไขให้แล้วเสร็จในเวลาที่เหมาะสม ทำให้พนักงานมีความตระหนักเกี่ยวกับความปลอดภัย รวมถึงบ่งชี้พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยเพื่อนำไปสู่ การแก้ไข ป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ

ในปี 2567 ได้กำหนดเป้าหมายรวมถึงตัวชี้วัด โดยผู้บริหารและพนักงานทุกคนภายในสายปฏิบัติการ ต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จากการประเมินพบว่าร้อยละ 98.82 ของพนักงานภายในสายปฏิบัติการมีส่วนร่วมในกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีร้อยละ 1.18 ของพนักงานภายในสายปฏิบัติการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนด

อีสท์ วอเตอร์ ให้ความสำคัญ และส่งเสริมให้องค์กรมีวัฒนธรรมความปลอดภัย จึงจัดให้มีโครงการการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย (Behavior-Based Safety : BBS) และการสร้างแนวความคิดความปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (Building SHE Mindset) เพื่อเป็นการสร้างกรอบความคิดหรือทัศนคติทางจิตใจ ที่ส่งผลต่อความรู้สึก การกระทำ และพฤติกรรมที่มีอิทธิพลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ให้สามารถขับเคลื่อนพฤติกรรม และนำไปสู่ความสำเร็จได้ โดยมุ่งหวังให้พนักงานเกิดความคิดหรือทัศนคติทางจิตใจที่ดีในเรื่องของความปลอดภัย (S = Safety) อาชีวอนามัยหรือสุขภาพ (H = Health) และสิ่งแวดล้อม (E = Environmental) ทั้งนี้ ผู้บริหารมุ่งเน้นให้องค์กรมีวัฒนธรรมความปลอดภัยที่เกิดจากทัศนคติด้านความปลอดภัย และจิตสำนึกที่ดีของพนักงานในบริษัท ซึ่งเป็นหลักการของพฤติกรรมที่ปลอดภัยที่ดี โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่่

7.1 อบรมให้ความรู้หลักสูตร “การสร้าง SHE ในองค์กร” ให้พนักงานทุกระดับเกิดความรู้ความเข้าใจ และเกิดการสร้าง SHE mindset ในองค์กร

7.2 แต่งตั้งคณะกรรมการกิจกรรมการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย (Behavior-Based Safety: BBS) ประจำสำนักงานใหญ่

7.3 การสำรวจ SHE mindset ในองค์กร

7.4 อบรมหลักสูตร “อาสาสมัครการสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย” ให้กับตัวแทนพนักงานในแต่ละหน่วยงาน

อีสท์ วอเตอร์ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพใจ (Mental Health) เป็นปีที่ 2 อย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต หรือ Mental Health ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถประเมินความสุขในการทำงานของพนักงาน เมื่อต้องทำงานภายใต้องค์กรเดียวกัน พร้อมทั้ง สร้างบรรยากาศการทำงานที่สร้างสุข Happy Work Place ส่งเสริมพนักงานใส่ใจสุขภาพมี สุขภาพกาย และภาวะจิตใจที่เป็นสุข สามารถปรับตัวแก้ปัญหา สร้างสรรค์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่น มีความมั่นคงทางจิตใจ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สามารถอยู่ในสังคม และสิ่งแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจัดให้มีกิจกรรมการให้บริการปรึกษาจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา

9.1 การตรวจวัดแสงสว่าง บริษัทได้ทำการตรวจสอบแสงสว่างในสถานที่ประกอบกิจการ 1 ครั้ง ดังนี้

จากการตรวจสอบแสงสว่างในสถานที่ประกอบกิจการ บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโดยการติดตั้งระบบไฟ ส่องสว่างเป็นแบบ LED High bay ให้ครอบคลุมพื้นที่ทำงาน และหลังจากดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้วเสร็จ มีการตรวจวัดค่าแสงสว่าง พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกจุด

9.2 อุปกรณ์ทำงาน บริษัทมีการตรวจเช็คอุปกรณ์ทำงานทุก ๆ วัน โดยตรวจเช็คมอเตอร์, ปั๊ม Accessory Pump, Valve system, Electrical system, Fire Alarm system, Control Scada/Instrument, flowmeter, เครื่องวัดคุณภาพน้ำ online เป็นต้น พบว่ามีสภาพปกติพร้อมใช้งาน

9.3 อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย บริษัทได้จัดให้มีการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย โดยจัดหาเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ ได้ทำการติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ การจัดทำทางหนีไฟ เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ พร้อมทั้งมีการตรวจสอบอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยฯ ทุกชนิดอย่างสม่ำเสมอ แยกตามรายการ ดังนี้

  1. FM_ป_400-017 RV.00 แบบตรวจสอบเครื่องดับเพลิงชนิดมือ
  2. FM_ป_400-018 RV.00 แบบตรวจสอบเครื่องตรวจวัดก๊าซแบบพกพา
  3. FM_ป_400-020 RV.00 แบบตรวจสอบไฟฉุกเฉิน และป้ายทางหนีไฟ
  4. FM_ป_400-031 RV.00 แบบตรวจสอบอุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือ
  5. FM_ป_400-032 RV.00 แบบตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ

9.4 อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล บริษัทได้จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่ผ่านตามมาตรฐานให้แก่พนักงาน โดยก่อนรับอุปกรณ์ บริษัทให้พนักงานได้ศึกษารายละเอียดการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล และวิธีการดูแลรักษา เช่น รองเท้าเซฟตี้ หมวกเซฟตี้ อุปกรณ์ป้องกันเสียง แว่นเซฟตี้ และถุงมือหนัง

9.5 การรั่วไหลของสารอันตราย บริษัทมีการใช้สารเคมีประเภท โซเดียมไฮโปคลอไรต์ (sodium hypochlorite) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น พร้อมทั้งได้จัดทำพื้นที่จัดเก็บสารเคมีให้เป็นไปตาม กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน เกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. 2556 โดยบริษัทได้มีการเข้าตรวจพื้นที่จัดเก็บสารเคมีรั่วไหลเป็นประจำทุกเดือน มีการรายงานผลแบบบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายพร้อมรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย (สอ.1) รายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทำงานและสถานที่จัดเก็บรักษาสารเคมีอันตราย (สอ.3) และ ใบแจ้งข้อเท็จจริงของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออกหรือผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายใน ความรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม(วอ.อก7) ตามกำหนดของกฎหมาย (Disclosure 305-6)

ทั้งนี้ ในปี 2567 ไม่พบการหกรั่วไหลของสารเคมีและได้มีการจ้างผู้รับจ้างเข้ามาตรวจการฟุ้งกระจายในอากาศเพื่อยืนยันว่านอกจากการตรวจสอบทางกายภาพแล้วไม่มีการหกรั่วไหล (ฟุ้งกระจายในอากาศ) ที่ไม่สามารถตรวจทางกายภาพได้ พร้อมทั้งมีการซ้อมแผนสารเคมีหกรั่วไหลประจำปีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง (Disclosure 306-3)

การจัดการเหตุฉุกเฉิน

บริษัทให้ความสำคัญเรื่องการจัดการเหตุฉุกเฉินเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานรวมถึงทรัพย์สินของบริษัท ในปี 2567 มีการดำเนินการดังนี้

1. ปรับปรุงคู่มือการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management: BCM) และ ปรับปรุงแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Planning : BCP) รวมทั้งฝึกซ้อมแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ ณ สำนักงานใหญ่ อาคารอีสท์วอเตอร์ โดยจำลองสถานการณ์เกิดเหตุเพลิงไหม้ ในส่วนพื้นที่ปฏิบัติการ ได้จำลองสถานการณ์สระเก็บ น้ำดิบแตกรั่วไหล และท่วมถนน พื้นที่การเกษตรและพื้นที่ชุมชน

บริษัทได้ทดสอบความครบถ้วนของแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ รวมทั้งทดสอบความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ จัดเตรียมความพร้อมของระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบัติการ สถานที่ปฏิบัติงานสำรอง และการติดต่อสื่อสารงานระหว่าง พนักงานที่ปฏิบัติงานที่บ้าน หน่วยงานภายใน และหน่วยงานภายนอก

นอกจากนี้ยังได้จัดทำคู่มือแผนการบริหารภาวะวิกฤต (Crisis Management Plan : CMP) เพื่อให้เกิดการเตรียมการ การจัดการต่อสภาวการณ์หรือสถานการณ์ชั่วคราวที่ไม่ได้คาดคิด สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อันเป็นการลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริษัทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการจัดทำแผนการสื่อสารในภาวะวิกฤต (Crisis Communication Plan) เพื่อให้เกิดเกิดการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

2. ฝึกซ้อมดับเพลิง และอพยพหนีไฟประจำปีของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 พื้นที่ ดังนี้

  • พื้นที่สำนักงานใหญ่ อาคารอีสท์วอเตอร์ แบ่งออกเป็น 2 ครั้ง คือ การฝึกซ้อมดับเพลิง และอพยพหนีไฟในยามวิกาล และในเวลาทำการ
  • พื้นที่ปฏิบัติการ ฝึกซ้อมในพื้นที่ในสถานี และสำนักงานครอบคลุม จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดฉะเชิงเทรา

เพื่อเตรียมความพร้อมการฝึกปฏิบัติการอพยพ การทดสอบระบบป้องกันอัคคีภัยกรณีเกิดเหตุ โดยมีหน่วยงานราชการสถานีดับเพลิง สถานีตำรวจ โรงพยาบาล หน่วยงานฝึกอบรม และอาคารบ้านเรือนข้างเคียง ให้ความร่วมมือสนับสนุนการฝึกซ้อมซึ่งผลการฝึกซ้อมสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์

3. ฝึกซ้อมระงับเหตุฉุกเฉินกรณีสารเคมีหกรั่วไหล ประจำปีของบริษัท เพื่อเตรียมความพร้อมการฝึกปฏิบัติการจัดการกับสารเคมีอันตราย หรือน้ำมันเชื้อเพลิงหกรั่วไหล รวมทั้งการจัดการของเสียที่เกิดขึ้น ตามที่กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐาน