การบริหารทรัพยากรบุคคล

ในปี 2567 เป็นปีที่ท้าทายของ อีสท์ วอเตอร์ สืบเนื่องจากรูปแบบการดำเนินธุรกิจได้ก้าวเข้าสู่ระบบการแข่งขันในตลาดอย่างสมบูรณ์ มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งขันในตลาดน้ำครบวงจร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของบุคลากรในองค์กร ที่ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถฟื้นคืนสถานการณ์ และก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง การสื่อสาร ให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงไปตรงมา และการสร้างขวัญกำลังใจจากฝ่ายบริหาร จึงเป็นภาระกิจสำคัญในปี 2567 ที่ อีสท์ วอเตอร์ ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในการบริหารทรัพยากรบุคคล ควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กรให้พนักงานมีความผูกพัน และรักษาพนักงานที่มีศักยภาพ มีผลงานที่ดี ให้คงอยู่กับองค์กรต่อไป โดยส่งเสริมให้พนักงานได้มีโอกาสก้าวหน้าในการทำงาน ได้แสดงศักยภาพผ่านรูปแบบกิจกรรมพัฒนาบุคลากร รวมทั้งสร้างเสริมให้พนักงานรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาองค์กร

ทั้งนี้ อีสท์ วอเตอร์ ได้ดำเนินงานในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนี้

การปรับปรุงกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคค

  1. การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management System)
    บริษัทมีระบบการบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management System) ที่เป็นรูปธรรม ชัดเจน และสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร (Corporate KPIs) และมีการสื่อสารหลักเกณฑ์วิธีการวัดผลการดำเนินงานให้พนักงานทุกคนในองค์กรรับทราบร่วมกัน เป็นประจำทุกปี โดยมีตัวชี้วัดผลงาน หลายส่วนขึ้นอยู่กับระดับของพนักงาน ดังนี้ี้
    1. ตัวชี้วัดผลงานระดับองค์กร (Corporate KPIs) เพื่อวัดผลลัพธ์การดำเนินงานของบริษัท เปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดไว้
    2. ตัวชี้วัดผลงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic KPIs) เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมหรือโครงการที่สำคัญในปีนั้น ๆ
    3. ตัวชี้วัดผลงานรายบุคคล (Individual KPIs) เพื่อวัดผลการทำงานของพนักงานตามหน้าที่รับผิดชอบในตำแหน่งต่าง ๆ
    4. ตัวชี้วัดผลงานร่วม (Common KPIs) เพื่อวัดผลงานที่สำคัญในปีนั้น ๆ โดยพนักงานทุกคนในองค์กรมีส่วนรับผิดชอบผลสำเร็จร่วมกัน
    5. ตัวชี้วัดสมรรถนะหลัก (Core Competency - CC) เพื่อประเมินพฤติกรรมอันพึงประสงค์ในการทำงานที่พนักงานทุกคนควรมีในระดับที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน
    6. ตัวชี้วัดสมรรถนะด้านการบริหารจัดการ (Managerial Competency - MC) เพื่อประเมินทักษะความสามารถด้านการบริหารจัดการของพนักงานระดับอาวุโสขึ้นไป
    7. ตัวชี้วัดด้านคุณภาพในการปฏิบัติงาน (Working Quality) วัดคุณภาพที่พนักงานส่งมอบให้กับหน่วยงาน/องค์กร

    ทั้งนี้ พนักงานระดับผู้จัดการขึ้นไปที่มีผู้ใต้บังคับบัญชา จะถูกประเมิน CC & MC รูปแบบ 180 องศาจากทั้งผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ผลการประเมินสมรรถนะมีความเที่ยงตรงน่าเชื่อถือมากที่สุด โดยผลการประเมิน CC & MC จะถูกนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาสมรรถนะในส่วนที่พนักงานต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป

  2. การทบทวนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและคู่มือสวัสดิสงเคราะห์พนักงานปี 2567
    อีสท์ วอเตอร์ ปรับปรุงหมวดรายการสำหรับเบิกสวัสดิการยืดหยุ่นเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพพนักงานโดยออกแบบ ให้ตอบสนองความต้องการของพนักงานที่มีความต้องการพื้นฐานแตกต่างกันนอกเหนือจากการจัดสวัสดิการตามที่กฎหมาย กำหนด เช่น เพิ่มรายการเบิกค่าช่วยเหลือที่อยู่อาศัยและการผ่อนชำระยานพาหนะของพนักงาน เป็นต้น โดยข้อบังคับเกี่ยวกับ การทำงาน รวมถึงคู่มือสวัสดิสงเคราะห์ และสิทธิประโยชน์ของพนักงาน โดยมีการเผยแพร่ไว้ในห้องสมุดน้ำ (Water Library) ซึ่งเป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับพนักงานเพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูล ได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา อันสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทที่เน้นให้พนักงานค้นหาข้อมูลเรียนรู้ด้วยตัวเอง
  3. การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน
    อีสท์ วอเตอร์ ดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทานให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดย อีสท์ วอเตอร์ ได้ตั้งปณิธานที่จะเป็นพลเมืองที่ดี (Good Citizen Company) เป็นองค์กรที่เติบโต และดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้เสีย และคำนึงถึงการดำเนินงานที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติเคารพหลักสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้เสีย โดยแสดงภาพรวมกระบวนการ ดังนี้

การดูแลคุณภาพชีวิตและการพัฒนาบุคลากรสู่องค์กรน้ำอย่างยั่งยืน (Disclosure404-2)

  1. การพัฒนาศักยภาพบุคลากร

    บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (learning Organization) โดยเน้นเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงศักยภาพ และร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจ บนพื้นฐานแนวคิด S-H-A-R-P ซึ่งเป็น Core Value ขององค์กร พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตอบรับความท้าทายของสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

    การพัฒนาทักษะของพนักงานจะเริ่มตั้งแต่วันแรกของการทำงานไปจนถึงวันที่เกษียณอายุ แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะเริ่มเรียนรู้ ระยะพัฒนาเพื่อการเติบโต และระยะเตรียมเกษียณอายุงาน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน (Employee Experience) ให้กับพนักงานทุกระดับด้วยการวางแผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan : IDP) โดยใช้เครื่องมือการพัฒนาที่หลากหลายเป็นแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถตามมาตรฐานตำแหน่งงานที่กำหนดไว้ เพื่อให้ปฏิบัติงานได้บรรลุตามเป้าหมายทั้งในระดับบุคคล (Personal Goals) ระดับหน่วยงาน (Department Goals) และระดับองค์กร (Organization Goals) พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และมีศักยภาพในการทำงานในตำแหน่งงานที่สูงขึ้นตามเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) ที่องค์กรกำหนดไว้

  2. การบริหารจัดการและดูแลสวัสดิการพนักงาน

    บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (learning Organization) โดยเน้นเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงศักยภาพ และร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายทางธุรกิจ บนพื้นฐานแนวคิด S-H-A-R-P ซึ่งเป็น Core Value ขององค์กร พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตอบรับความท้าทายของสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

    1. สวัสดิการพนักงาน (Disclosure 401-2)

      บริษัทมีสวัสดิสงเคราะห์ยืดหยุ่นที่ออกแบบให้ตอบสนองความต้องการของพนักงานที่แตกต่างกันทั้งเพศและวัย โดยมีความหลากหลายของประเภทการใช้งาน มีรายละเอียดดังนี้

      1. ค่ารักษาพยาบาล
      2. เบี้ยประกันชีวิต และประกันสุขภาพ
      3. ช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตร
      4. เงินสงเคราะห์บุตร
      5. เงินช่วยเหลืองานแต่งงาน
      6. สมาชิกศูนย์กีฬา
      7. ค่าอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Working)
      8. ค่าช่วยเหลือที่อยู่อาศัยพนักงานและท่องเที่ยวนันทนาการ
    2. คณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ (Disclosure 2-30)

      กลุ่มบริษัทจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ (คณะกรรมการสวัสดิการฯ) จำนวน 3 คณะ คือ

        • คณะกรรมการสวัสดิการฯ ของบริษัท จำนวน 2 คณะ คือคณะกรรมการสวัสดิการฯ สำนักงานใหญ่ และคณะกรรมการสวัสดิการฯ ศูนย์ปฎิบัติการระยอง รวมจำนวนกรรมการทั้งหมด 10 คน คิดเป็นร้อยละ 4.29 ของพนักงานทั้งหมด
        • คณะกรรมการสวัสดิการฯ ของบมจ.ยูยู 1 คณะ จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 5.93 ของพนักงานทั้งหมด
    3. โครงการสวัสดิการสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุแล้ว

      สืบเนื่องจากบริษัทมีพนักงานจำนวนหนึ่งที่ครบเกษียณอายุ พนักงานกลุ่มนี้ล้วนเคยเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานมากับบริษัทอย่างยาวนาน และมุ่งมั่นทุ่มเทตลอดมา เมื่อพนักงานกลุ่มนี้พ้นสภาพความเป็นพนักงานของบริษัทด้วยการครบเกษียณอายุ 60 ปี บริษัทจึงจัดกิจกรรมเพื่อแสดงความขอบคุณในการทำงานกับบริษัท

      นอกจากนี้ เมื่อเป็นผู้สูงวัยแล้วการรักษาสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น เมื่อครบรอบการตรวจสุขภาพประจำปีให้พนักงาน บริษัทจึงประสานงานกับโรงพยาบาลปัจจุบันที่พนักงานต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพอยู่แล้ว ให้เสนอโปรแกรมการตรวจสุขภาพในราคาเหมาะสมให้กับผู้ที่เกษียณอายุเข้ารับการตรวจสุขภาพด้วย โดยผู้ที่เกษียณอายุจะได้รับการตรวจสุขภาพในราคาเหมาะสมเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการดำเนินการ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ที่เกษียณอายุ เท่านั้น และจากการสอบถามผู้ที่เกษียณแล้วรู้สึกขอบคุณที่บริษัทยังคงห่วงใย แม้ไม่ได้ปฏิบัติงานที่บริษัทแล้ว

    4. การนำความคิดเห็นที่ได้รับจากช่องทางต่าง ๆ มาปรับปรุง ในปี 2567

      บริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ และการสร้างแรงจูงใจ ตลอดจนความผูกพันของพนักงานกับบริษัทเสมอมาจึงได้ดำเนินการ เพื่อสนับสนุนการทำงานของพนักงาน หรือลดภาระค่าใช้จ่ายของพนักงาน ให้สามารถมุ่งเน้นการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่

ผลการสำรวจความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงาน

ความผูกพันของพนักงาน

ความผูกพันต่อองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน กับบริษัท โดยในการศึกษาความผูกพันของพนักงานได้วัดความผูกพันผ่านการประเมินที่มีคะแนนเต็ม 6 คะแนน และผลการศึกษา พบว่า คะแนนความผูกพันโดยรวมปี 2567 อยู่ที่ 4.84 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจย้อนหลัง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรับปรุงกลยุทธ์ในการเสริมสร้างความผูกพัน และการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี มีผลต่อการเพิ่มของคะแนนความผูกพันในช่วงระยะเวลา 3 ปีนี้

ความพึงพอใจในการทำงานของพนักงาน

ผลสำรวจความพึงพอใจในภาพรวมต่อการทำงานของพนักงาน ปี 2567 มีคะแนนความพึงพอใจรวมอยู่ที่ 4.61 จากคะแนนเต็ม 6 แม้ว่าจะอยู่ในระดับที่ดี แต่มีการลดลงแม้เพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า การลดลงของคะแนนความพึงพอใจนี้อาจสะท้อนถึงปัจจัยหลายประการที่อาจมีผลต่อความรู้สึกพึงพอใจของพนักงานในบริษัท