พื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศูนย์การผลิตทางด้านอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมเหล็ก ปิโตรเลียม และรถยนต์ อีกทั้งยังเป็นศูนย์การขนส่ง ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศอันได้แก่ ท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง ท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ตลอดจนเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น เมืองพัทยา การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจึงมีความสำคัญยิ่ง อีสท์ วอเตอร์ จึงได้ลงทุน และให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีอันทันสมัยมาพัฒนาขีดความสามารถของระบบการทำงานพื้นฐาน ทั้งทางด้านการก่อสร้าง และระบบการจัดการ ให้มีรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ระบบควบคุมแบบรวมศูนย์ (Control Center)

อีสท์ วอเตอร์ ได้นำระบบควบคุมแบบรวมศูนย์ (Control Center) มาใช้ในการบริหารระบบสูบส่งน้ำ โดยมีการจัดการฐานข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน และใช้สถานีศูนย์ควบคุมกลาง (Master Centralized Control) เป็นตัวควบคุมการสั่งการ และการสื่อสารทั้งหมดในระบบ SCADA รวมถึงใช้โปรแกรมระบบ GIS และแบบจำลองอุทกพลศาสตร์ เพื่อวางแผน และบริหารจัดการแหล่งน้ำ และการใช้น้ำได้อย่างเหมาะสม ทั้งหมดนี้เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำ และการบริหารจัดการโครงข่ายท่อส่งน้ำของ อีสท์ วอเตอร์ เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

โปรแกรมแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ และโปรแกรมประยุกต์เพื่อการวางแผน และบริหารจัดการระบบโครงข่ายท่อ (GIS)

โปรแกรมระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System หรือ GIS) และแบบจำลองอุทกพลศาสตร์ (Hydrodynamic Model) เป็นการนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ มาใช้สนับสนุนการวางแผนบริหารจัดการระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำ เช่น ปริมาณน้ำต้นทุน (ปริมาณน้ำจัดสรร และแหล่งน้ำธรรมชาติ) ความต้องการใช้น้ำ ประสิทธิภาพของระบบสูบจ่าย และต้นทุนค่าน้ำ/ค่าพลังงาน เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจจัดทำแผน และบริหารจัดการน้ำ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และสามารถรองรับการบริหารจัดการน้ำได้ครอบคลุมทุกกรณี ทำให้การจัดทำแผน และการบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุด