การใช้พลังงานไฟฟ้า และมาตรการอนุรักษ์พลังงาน

พลังงานไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อระบบสูบส่ง และการจ่ายน้ำ อีกทั้งยังเป็นต้นทุนหลักที่สำคัญของบริษัท ซึ่งปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าแปรผันตามปริมาณการสูบน้ำผ่านโครงข่ายท่อส่งน้ำ (Water Grid) ที่มีสถานีสูบน้ำหลัก จำนวน 19 สถานี สถานีไฟฟ้าย่อยและมาตรวัดน้ำ จำนวน 55 สถานี ดังนั้น บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพของระบบสูบและการจ่ายน้ำ (Reliability) โดยการกำหนดเป้าหมายไม่ให้เกิดความเสียหายกับเครื่องจักร อุปกรณ์ จนทำให้ระบบสูบจ่ายน้ำหยุดชะงัก หรือต้องไม่มีการหยุดจ่ายน้ำจากระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำหลัก อย่างไรก็ตามได้กำหนดเกณฑ์การหยุดจ่ายน้ำเพื่อการบำรุงรักษาไว้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง/ครั้ง แต่สำหรับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีความสำคัญสูง (Class A) จะต้องไม่มีการหยุดทำงานแต่อย่างใด

นอกจากนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญในการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ จึงได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่องทั้งในกระบวนการสูบส่งน้ำ และอาคารสำนักงาน เพื่อเป็นการลดการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของกลุ่มบริษัท ผ่านคณะทำงานด้านการจัดการพลังงาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรแล้วยังช่วยลดปัญหา “ภาวะโลกร้อน” ได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์พลังงานจะครอบคลุมการใช้พลังงานของกลุ่มบริษัท ดังนี้

1. สถานีสูบน้ำที่ขึ้นทะเบียนเป็นโรงงานควบคุมทั้งสิ้น 11 โรงงาน ได้แก่ สถานีสูบน้ำหนองปลาไหล (2-3) สถานีสูบน้ำบางปะกง/สถานีสูบน้ำแรงดันต่ำบางปะกง สถานีสูบน้ำฉะเชิงเทรา สถานีสูบน้ำอ่างเก็บน้ำบางพระ สถานีสูบน้ำเพิ่มแรงดันสำนักบก สถานีสูบน้ำประแสร์ สถานีสูบน้ำ หนองค้อ สถานีสูบน้ำแรงสูงสระทับมา/สถานีสูบน้ำแรงดันต่ำสระทับมา สถานีสูบน้ำคลองทับมา สถานีสูบน้ำแม่น้ำระยอง และสถานีสูบน้ำผลิตน้ำอุตสาหกรรม โดยมีสถานีที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นโรงงานควบคุม 2 สถานี คือ สถานีสูบน้ำเพิ่มแรงดันหนองปลาไหล และสถานีสูบน้ำเพิ่มแรงดันมาบตาพุด

2. อาคารควบคุม 1 อาคาร
ได้แก่ อาคารสำนักงานใหญ่ โดยเป้าหมายในแต่ละปีจะใช้ผลการประเมินศักยภาพการอนุรักษ์พลังงานของปีก่อนมากำหนดเพื่อลดระดับการใช้พลังงานในปีถัดไป ทั้งในระดับองค์กร ในระดับการผลิตหรือบริการ และในระดับอุปกรณ์ โดยพิจารณาจากระดับการสูญเสียพลังงานที่เกิดขึ้นและโอกาสที่จะดำเนินการปรับปรุง

3. สถานีไฟฟ้าย่อย จำนวน 55 สถานี

4. สถานีผลิตน้ำประปาของบมจ.ยูยู จำนวน 11 กิจการ

สรุปผลการดำเนินงานในโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานปี 2567 มีดังนี้
มาตรการการอนุรักษ์พลังงานไฟฟ้า ประจำปี 2567
สถานที่
โครงการ ก่อนปรับปรุง
(กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ ปี)
หลังปรับปรุง
(กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ ปี)
ประหยัดพลังงาน
(กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ ปี)
สำนักงานใหญ่ 1. มาตรการบริหารจัดการระบบ Chiller Plant ด้วยระบบ Chiller Plant Management System (CPMS) 623,562.54 589,332.05 34,230.49
2. มาตรการทำความสะอาดคอนเดนเซอร์เครื่องทำน้ำเย็น Chiller 512,573.16 497,195.96 15,377.20
3. มาตรการเปลี่ยนปั๊มน้ำประสิทธิภาพสูง 86,629.40 63,534.92 23,094.48
4. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนของหอผึ่งเย็น 34,122.61 17,061.30 17,061.31
5. มาตการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน  (Air Split Type) 205,059.29 198,907.51 6,151.78
6. ปรับ Set Point เครื่องปรับอากาศห้อง MDB ให้เหมาะสมกับการใช้งาน 53,666.93 34,883.51 18,783.42
7. ยกเลิกการใช้พัดลมระบายอากาศห้องปรับอากาศ MDB 9,082.49 0 9,082.49
รวม 1,524,696.42 1,400,915.25 123,781.17
คิดเป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
(kg-CO2eq)
762,195.74 700,317.53 สามารถลดการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
61,878.21 kg-CO2eq
พื้นที่ปฏิบัติการ
สถานีสูบน้ำหนองปลาไหล(2-3) สถานีสูบน้ำฉะเชิงเทรา สถานีสูบน้ำบางปะกง สถานีสูบน้ำประแสร์ สถานีสูบน้ำแรงสูงสระทับมา สถานีสูบน้ำอ่างเก็บน้ำบางพระ สถานีสูบน้ำเพิ่มแรงดันสำนักบก สถานีสูบน้ำคลองทับมา สถานีสูบน้ำแม่น้ำระยอง  และสถานีสูบน้ำผลิตน้ำอุตสาหกรรม โดยมี 1 สถานีที่ได้รับผ่อนผันไม่ต้องจัดทำมาตรการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมายกำหนด ได้แก่ สถานีสูบน้ำหนองค้อ
1. มาตรการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ 1,245,508.82 1,195,519.88 49,988.94
2. มาตรการเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูง 68,720.50 22,426.48 46,294.01
รวม 1,314,299.32 1,217,946.36 96,282.95
คิดเป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
(kg-CO2eq)
656,983.24 608,851.39 สามารถลดการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
48,166.84 kg-CO2eq
มาตรการการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้า เทียบปี 2564 - 2567
สถานที่
รูปแบบ ระยะเวลาดำเนินการ (ม.ค - ธ.ค.)
2564 2565 2566 2567
บริษัท
สำนักงานใหญ่ SOLAR ROOFTOP SYSTEM (กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ ปี) 11,893.70 26,955.00 25,621.00 25,482.00
พื้นที่ปฏิบัติการ 0 0 0 6,970.58

สรุปการใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานเชื้อเพลิงของบริษัทในปี 2567 มีการใช้พลังงานจาก 3 รูปแบบ คือ พลังงานจากไฟฟ้า พลังงานจากแสงอาทิตย์ และพลังงานจากน้ำมัน (ประเภทดีเซล และประเภทเบนซิน) คิดเป็น 126,078,614.79 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยเป็นการคำนวณจาก

  1. สถานีสูบน้ำ 123,164,480.58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
  2. สำนักงานใหญ่อาคารอีสท์วอเตอร์ 1,624,228.83 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
  3. สถานีไฟฟ้าย่อยตามแนวท่อส่งน้ำบริษัท 199,714.63 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
  4. น้ำมันรถยนต์ผู้บริหาร-รถบริษัท 108,776.39 ลิตร คิดเป็น 3,921,549.45 เมกะจูล หรือ 1,090,190.75 กิโลวัตต์-ชั่วโมง

ในปี 2567 เศรษฐกิจมีการชะลอตัวในภาคอุตสาหกรรมส่งผลให้กำลังการผลิตของลูกค้าลดลง ทำให้ความต้องการใช้น้ำลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566 ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าและพลังงานเชื้อเพลิงของบริษัทลดลงจากปี 2566 จำนวน 21,630,794.14 กิโลวัตต์-ชั่วโมง หรือลดลงร้อยละ 14.95 ของพลังงานที่ใช้ในปี 2566

นอกจากนี้ บริษัทมีโครงการเพิ่มศักยภาพโครงข่ายท่อส่งน้ำ เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำในอนาคต แต่บริษัทยังคงควบคุมการใช้พลังงานในการสูบส่งน้ำต่อหน่วยน้ำ คิดเป็นการใช้พลังงาน 0.40 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/ลบ.ม. มีการใช้พลังงานต่อหน่วยน้ำลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 2.44

หมายเหตุ คิดจากการใช้พลังงานในสถานีสูบน้ำเทียบกับปริมาณน้ำสูบทั้งระบบ จำนวน 304,973,676 ลบ.ม.