อีสท์ วอเตอร์  ปลื้มติด  1  ใน  65 บจ.หุ้นยั่งยืน ประจำปี 2560  ในกลุ่มมูลค่าหลักทรัพย์ ระหว่าง  10,000-30,000 ล้านบาท  โดดเด่นในเรื่องการดูแลสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ให้ได้รับผลกระทบจากธุรกิจน้อยที่สุด ให้ความสำคัญกับเรื่องจรรยาบรรณธุรกิจและการต่อต้านการทุจริต รวมถึงบรรษัทภิบาล เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

 

บริษัท  จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์  (EASTW)  เผยผลประกาศรายชื่อ Thailand Sustainability Investment: THSI หรือ หุ้นที่ยั่งยืน ประจำปี 2560 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอีสท์ วอเตอร์ เป็น  1 ใน 65 บริษัทหุ้นยั่งยืน  และเป็นปีที่ 2 ที่ติดต่อกัน ซึ่งอีสท์ วอเตอร์อยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ระหว่าง 10,000-30,000 ล้านบาท เน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) เพื่อเป็นทางเลือกของนักลงทุน ที่คำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

 

สำหรับการจัดทำรายชื่อ Thailand Sustainability Investment: THSI หรือหุ้นยั่งยืน ดำเนินการโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในปี 2560 มีจำนวน 65 บริษัท เพิ่มจำนวนขึ้นจากปีที่ผ่านมา 14 บริษัท สะท้อนความตื่นตัวของบริษัทจดทะเบียน เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนตามแนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืนและต้องการลงทุนในหุ้นที่สามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่มีคะแนนดีในมิติสิ่งแวดล้อมโดยโดดเด่นในเรื่องการดูแลสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ให้ได้รับผลกระทบจากธุรกิจน้อยที่สุด สำหรับในมิติเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องจรรยาบรรณธุรกิจและการต่อต้านการทุจริต รวมถึงบรรษัทภิบาล การบริหารความเสี่ยงและภาวะวิกฤติ ในขณะที่มิติสังคม ส่วนใหญ่มุ่งเน้นเรื่องการดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงาน และการมีส่วนร่วมกับชุมชนและสังคมเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัท และการร่วมพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาสังคมอย่างยั่งยืนผ่านกระบวนการทางธุรกิจ

 

จากผลการประเมินในปีนี้แสดงให้เห็นว่าอีสท์ วอเตอร์ (EASTW)  ให้ความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  มีการดำเนินงานที่คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียครอบคลุมทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม  มีกระบวนการบริหารจัดการเพื่อสร้างความยั่งยืน และมีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจน โปร่งใส มีการปรับบทบาทและภาวะผู้นำของคณะกรรมการในเชิงรุกมากขึ้น ทั้งในด้านวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง